นับเป็นเวลานานกว่า 35 ปีที่ภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ระดับโลกอย่าง "แรมโบ้ 4 นักรบพันธุ์เดือด" ที่เริ่มฉายปี พ.ศ. 2551 ซึ่ง "ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน" แสดงนำและนั่งแท่นผู้กำกับการแสดงด้วย เชื่อว่าหลายคนที่ดูภาพยนต์เรื่องนี้แล้วคงต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โคตรมัน" สำหรับ "คนคอหนังสงครามยิงถล่มกันสนั่นจอ" คงจะพอจำกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทย บางฉากบางตอนก็ถ่ายทำที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ผมมีโอกาสมา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ดูภารกิจต่างๆของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ณ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และมีหลายๆเรื่องที่น่าสนใจ อย่างเช่น การฟื้นฟูป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนพื้นที่สูงชันในเขตอุทยานฯ จนนำไปสู่ "ศรีลานนาโมเดล" ต้นแบบสร้างป่าและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเจ้าหน้าที่นำยุทธศาสตร์ด้านต่างๆบูรณาการลดความขัดแย้งกับชาวบ้านจนประสบความสำเร็จมาระดับหนึ่ง
"ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง" ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่ชาติ
บอกว่า การท่องเที่ยวในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อนาคตอุทยานฯอาจต้องควบคุมจำนวนเรือและแพพัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ทำให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้น้ำต่างๆที่ไหลลงสู่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลที่มีตะกอนอันเกิดจากการทำลายป่าเหนือเขื่อนขึ้นไปก็ต้องมีการฟื้นฟูปลูกป่าให้มีต้นไม้มากรองตะกอนจนกลายเป็นป่าที่สมบูรณ์และเขื่อนแห่งนี้ก็จะยั่งยืนในอนาคต
"ศรีลานนาถือเป็นอุทยานประชารัฐซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ได้มีการร่วมมือกันรักษาป่า ร่วมกันจัดการการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และวันนี้สามารถเรียก "ศรีลานนาโมเดล" เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับที่อื่นได้เลย" ดร.ทรงธรรม กล่าว
"เจตณรงค์ สมบูรณ์มา" ผู้ประกอบการแพพักภูเขาลอยน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล บอกว่า
ทางแพพักมีระบบจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล โดยนำขยะใส่ถุงแล้วเอาไปทิ้งบนฝั่ง และทำบ่อทิ้งน้ำเสีย มีท่อดักจับไขมัน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ได้ใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว หลังจากนี้ผู้ประกอบการแพทุกรายจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมไม่ให้เสื่อมโทรม โดยจะเน้นให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะมูลฝอยลงในแหล่งน้ำมีระบบจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็บระบบ
ช่วงสุดท้ายของ "ตะลอนตามอำเภอใจ" "ยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา บอกว่าปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ เพื่อขยายพื้นที่ทำกินของชุมชนรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยานฯ เป็นที่มาของปัญหาความขัดแย้งกับชาวบ้านเนื่องจากชาวบ้านไม่เข้าใจและไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา ทางอุทยานฯ จึงปรับแนวทางการดำเนินงานใหม่ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนมากขึ้น ส่วนการกำหนดแนวเขตพื้นที่ป่ากับพื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทุกขั้นตอนจะทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กับตัวแทนของชุมชน จนชาวบ้านยอมรับและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงนำไปสู่การคืนผืนป่าจำนวนมาก...
"นายตะลอน"
ผมมีโอกาสมา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ดูภารกิจต่างๆของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ณ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และมีหลายๆเรื่องที่น่าสนใจ อย่างเช่น การฟื้นฟูป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนพื้นที่สูงชันในเขตอุทยานฯ จนนำไปสู่ "ศรีลานนาโมเดล" ต้นแบบสร้างป่าและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเจ้าหน้าที่นำยุทธศาสตร์ด้านต่างๆบูรณาการลดความขัดแย้งกับชาวบ้านจนประสบความสำเร็จมาระดับหนึ่ง
"ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง" ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่ชาติ
บอกว่า การท่องเที่ยวในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อนาคตอุทยานฯอาจต้องควบคุมจำนวนเรือและแพพัก รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ทำให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้น้ำต่างๆที่ไหลลงสู่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลที่มีตะกอนอันเกิดจากการทำลายป่าเหนือเขื่อนขึ้นไปก็ต้องมีการฟื้นฟูปลูกป่าให้มีต้นไม้มากรองตะกอนจนกลายเป็นป่าที่สมบูรณ์และเขื่อนแห่งนี้ก็จะยั่งยืนในอนาคต
"ศรีลานนาถือเป็นอุทยานประชารัฐซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ได้มีการร่วมมือกันรักษาป่า ร่วมกันจัดการการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และวันนี้สามารถเรียก "ศรีลานนาโมเดล" เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับที่อื่นได้เลย" ดร.ทรงธรรม กล่าว
"เจตณรงค์ สมบูรณ์มา" ผู้ประกอบการแพพักภูเขาลอยน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล บอกว่า
ทางแพพักมีระบบจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล โดยนำขยะใส่ถุงแล้วเอาไปทิ้งบนฝั่ง และทำบ่อทิ้งน้ำเสีย มีท่อดักจับไขมัน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ได้ใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว หลังจากนี้ผู้ประกอบการแพทุกรายจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมไม่ให้เสื่อมโทรม โดยจะเน้นให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะมูลฝอยลงในแหล่งน้ำมีระบบจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็บระบบ
ช่วงสุดท้ายของ "ตะลอนตามอำเภอใจ" "ยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา บอกว่าปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ เพื่อขยายพื้นที่ทำกินของชุมชนรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยานฯ เป็นที่มาของปัญหาความขัดแย้งกับชาวบ้านเนื่องจากชาวบ้านไม่เข้าใจและไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา ทางอุทยานฯ จึงปรับแนวทางการดำเนินงานใหม่ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนมากขึ้น ส่วนการกำหนดแนวเขตพื้นที่ป่ากับพื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทุกขั้นตอนจะทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กับตัวแทนของชุมชน จนชาวบ้านยอมรับและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงนำไปสู่การคืนผืนป่าจำนวนมาก...
"นายตะลอน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น