"ตะลอนตามอำเภอใจ"-บนพื้นที่ประมาณ 580 ไร่ ติดกับเขากลิ้ง ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ถือเป็นสถานที่ตั้งของ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" อาจเรียกได้ว่าเรือนจำแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของ จ.เพชรบุรี ไปแล้วก็ว่าได้
เพราะระยะหลังๆ มานี้ได้รับกระแสการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวเมืองไทยมากมายเหลือเกิน เนื่องจาก "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ที่ผมกำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ มีความแตกต่างจากเรือนจำที่คุมขังอื่นๆ หรือภาษาชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "คุก" อย่างสิ้นเชิง
ที่สำคัญเรือนจำแห่งนี้ยังมีความสำคัญในด้านศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่กักขังบริเวณผู้ต้องขัง เป็นสถานที่ฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งผู้ต้องขังที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ ต้องมีความประพฤติดี และถูกคัดเลือกมาจากเรือนจำเพชรบุรี เนื่องจาก "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" อยู่ในรับความรับผิดชอบและขึ้นตรงกับเรือนจำกลางเพชรบุรี ขณะเดียวกันก็อาจมีการพิจารณาผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดใกล้เคียงให้มาอยู่ภายในเรือนจำชั่วคราวแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
"เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ซึ่งเสมือนเป็นศูนย์เตรียมความพร้อมก่อนปล่อย และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นคนดีกลับคืนสู่สังคมอย่างปกติหลังพ้นโทษ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2505 ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง 142 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่ดูแล 14 คน บนพื้นที่ทั้งหมดของเรือนจำถูกแบ่งเป็นสวนป่าสะเดา, ป่าธรรมชาติ, บ่อน้ำเพื่อการเกษตร, แปลงสาธิต, กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการฝึกอาชีพต่างๆ มากมายให้กับผู้ต้องขังที่มาอยู่เรือนจำแห่งนี้
แน่นอนครับว่าผมหยิบยกเรื่องราวของ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" มาเขียนถึง เพราะมีโอกาสมา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ร่วมเดินทางมากับคณะผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์ที่นำคณะสื่อมวลชนมาสัญจรดูงาน และเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในเรือนจำชั่วคราวเขากลิ้งแห่งนี้
"พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า การนำสื่อมวลชนมาเยี่ยมชม "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" แห่งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบและเข้าใจในบทบาทภารกิจของกรมราชทัณฑ์
และนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีความรู้ ความเข้าใจ และเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั่วไป เพื่อจะได้ร่วมมือกันแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้กลับตนเป็นคนดีและออกไปสู่สังคมได้อย่างปกติสุขภายหลังพ้นโทษ ที่สำคัญเรือนจำแห่งนี้มีการฝึกอาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพัฒนาผู้ต้องขังให้รู้จักพึ่งพาตนเอง ตั้งแต่ด้านปัจจัย 4 ที่อยู่อาศัย การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย มีอาชีพที่สุจริตมั่นคง
 "อธิบดีกรมราชทัณฑ์" บอกอีกว่า นอกจากนี้มีการฝึกวิชาการเกษตรแบบพอเพียง อาทิ เกษตรปลอดสารพิษ ซึ่งมีความหลากหลายของการปลูก ตั้งแต่ผักสวนครัวชนิดต่างๆ ที่หมุนเวียนปลูกสลับกันไป ทั้งผักบุ้งจีน, ถั่วพู, ถั่วฝักยาว, ผักกาดขาว, พริก, กะเพรา, และอีกสารพัดพืชผักที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่ รวมทั้งไม้ผลอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง, มะละกอ, มะนาว เป็นต้น ที่พิเศษคือการปลูกดอกมะลิเชิง
         "อธิบดีกรมราชทัณฑ์" บอกอีกว่า นอกจากนี้มีการฝึกวิชาการเกษตรแบบพอเพียง อาทิ เกษตรปลอดสารพิษ ซึ่งมีความหลากหลายของการปลูก ตั้งแต่ผักสวนครัวชนิดต่างๆ ที่หมุนเวียนปลูกสลับกันไป ทั้งผักบุ้งจีน, ถั่วพู, ถั่วฝักยาว, ผักกาดขาว, พริก, กะเพรา, และอีกสารพัดพืชผักที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่ รวมทั้งไม้ผลอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง, มะละกอ, มะนาว เป็นต้น ที่พิเศษคือการปลูกดอกมะลิเชิง
พาณิชย์ในแปลงขนาดใหญ่ สามารถเก็บดอกขายให้กับบริษัทนำไปผลิตเป็นน้ำหอมทุกวัน และผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิดจะปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ มีการเพาะเห็ดนางฟ้าแบบโรงเรือน การปลูกต้นดอกพุทธซ้อนเพื่อขายต้นและดอกควบคู่กันไป การกลั่นสมุนไพรจากพืชเพื่อไล่แมลง การจัดทำน้ำส้มควันไม้ใช้แทนสารเคมี และการปลูกสวนป่า ฯลฯ
"พ.ต.อ.สุชาติ" บอกด้วยว่า โดยเฉพาะการปลูกสร้างบ้านดิน ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะเป็นที่ยอมรับ
จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนใน จ.เพชรบุรี และจังหวัดอื่นๆ ซึ่งได้นำบุคลากรเข้ามาศึกษาดูงานและฝึกทักษะวิชาชีพที่ศูนย์ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" เป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยในปี พ.ศ.2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จพระราชดำเนินเปิดห้องสมุดพร้อมปัญญา และทอดพระเนตรศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
"หากใครมาเยือนที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" จะเห็นร้านขายกาแฟตั้งอยู่ เพราะที่เรือนจำมีการฝึกอาชีพการชงกาแฟให้กับผู้ต้องขัง ที่ผ่านมามีผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้วสามารถได้งานทำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีชื่อเสียงใน จ.เพชรบุรี โดยรับผู้ต้องขังเหล่านี้ไปทำงาน เพราะมีความรู้ในการชงกาแฟที่มีรสชาติอร่อย ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปได้มีงานดีๆมีรายได้จุนเจือครอบครัว" พ.ต.อ.สุชาติ กล่าว
"ดร.สุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ" ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเพชรบุรี ในฐานะเจ้าบ้านและทำหน้าที่ไกด์นำชม กล่าวเสริมว่า ผู้ต้องขังที่มาอยู่ ณ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" นอกจากจะได้รับการปฏิบัติดูแลในลักษณะผ่อนคลายแล้ว ยังได้ประโยชน์จากทางราชการมากขึ้น เช่น การเยี่ยมเพื่อใช้ชีวิตคู่ เป็นสถานที่ฝึกอบรมเรื่องระเบียบวินัย ฝึกหัดอาชีพ ให้มีความรู้ ความชำนาญ และทักษะ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ภายหลังพ้นโทษ ถือเป็นสถานที่เตรียมความพร้อมก่อนได้รับการปลดปล่อยกลับสู่สังคม และยังเป็นสถานที่ระบายความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเพชรบุรีอีกด้วย
สำหรับการได้มา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ของผมในครั้งนี้ นอกจากจะได้เปิดหูเปิดตา ได้ความรู้ และไอเดียต่างๆ มากมายกลับบ้านแล้ว สิ่งที่พบเห็นภายในเรือนจำแห่งนี้ คือ บ้านชั้นเดียวที่ทำด้วยดินรูปร่างสวยงาม มีการแต่งแต้มสีสันทั้งภายในและภายนอกอย่างพิถีพิถัน รอบตัวบ้านตกแต่งจัดสวนได้อย่างลงตัว พื้นที่จัดสรรแบบเรียบง่าย มีทั้งอาคารสำนักงาน สถานที่ตรวจสารเสพติด และควบคุมผู้กระทำผิด บ้านพักอาศัย สถานที่เลี้ยงสัตว์ ด้านปศุสัตว์ต่างๆ อาทิ การเลี้ยงไก่พื้นเมือง, หมูป่า, โคพื้นเมือง, แพะเนื้อ และสุกร โดยผู้ต้องขังจะได้รับความรู้ตั้งแต่การเลี้ยงดูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปจนถึงขยายพันธุ์ การเลี้ยงดูลูกสุกรในลักษณะต่างๆ รวมถึงขายให้กับผู้สนใจทั่วไป
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ "การเลี้ยงหมูหลุม" เป็นการเลี้ยงตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ เพื่อพัฒนาเกษตรกรไทย โดยยึดหลักธรรมชาติ ซึ่งการเลี้ยงหมูหลุมนี้จะเน้นการใช้จุลินทรีย์ ทำให้สุกรมีความต้านทานโรค เนื้อแดงมาก มีไขมันน้อย ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวน ที่สำคัญช่วยลดต้นทุน มีกำไรสูง สุดท้ายพื้นคอกยังนำไปใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพและปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ต้องการอาหารที่ปลอดสารพิษ และการเลี้ยงหมูหลุม จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ผู้เลี้ยงมีรายได้ดีแบบไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี แถมยังสามารถนำเอามูลสุกรไปหมักในถังเพื่อให้เกิดก๊าชแล้วนำกลับมาใช้หุงต้มได้อีก
ช่วงสุดท้ายของ "ตะลอนตามอำเภอใจ" ขณะที่ผมเดินชมสิ่งต่างๆ อย่างเพลิดเพลินภายใน "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" แห่งนี้ ก็มองไปเห็นการผลิต "เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง"
ของผู้ต้องขังที่นี่ ถือได้ว่าเป็นเตาหุงต้มที่มีประสิทธิภาพน่าใช้มาก เพราะคุณภาพของเตาหุงต้มนี้มีการให้ความร้อนที่สูงสม่ำเสมอ และใช้เชื้อเพลิงจำนวนน้อยกว่าเตาหุงต้มจากท้องตลาดทั่วไป มีการออกแบบให้ประหยัดพลังงาน สามารถให้ความร้อนที่สูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบรูปทรงและตัวถังบรรจุเตา ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
และหากใครยังไม่มีโอกาสแวะเวียนไปที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ก็อาจแวะเวียนให้กำลังใจผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ด้วยการไปอุดหนุนสินค้าต่างๆ มากมายของเรือนจำแห่งนี้ ที่นำมาขาย และจัดแสดงร่วมกับเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ ภายในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 9-19 ธันวาคม 2556 เวลา 09.00 น.- 21.00 น. ณ สนามหน้าเรือนจำลาดยาว ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ...วันนี้ขอโบกมือลากันไปก่อนครับ...!!!
นวย เมืองธน
*****************************************
เพราะระยะหลังๆ มานี้ได้รับกระแสการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวเมืองไทยมากมายเหลือเกิน เนื่องจาก "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ที่ผมกำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ มีความแตกต่างจากเรือนจำที่คุมขังอื่นๆ หรือภาษาชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "คุก" อย่างสิ้นเชิง
ที่สำคัญเรือนจำแห่งนี้ยังมีความสำคัญในด้านศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่กักขังบริเวณผู้ต้องขัง เป็นสถานที่ฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งผู้ต้องขังที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ ต้องมีความประพฤติดี และถูกคัดเลือกมาจากเรือนจำเพชรบุรี เนื่องจาก "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" อยู่ในรับความรับผิดชอบและขึ้นตรงกับเรือนจำกลางเพชรบุรี ขณะเดียวกันก็อาจมีการพิจารณาผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดใกล้เคียงให้มาอยู่ภายในเรือนจำชั่วคราวแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
"เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ซึ่งเสมือนเป็นศูนย์เตรียมความพร้อมก่อนปล่อย และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นคนดีกลับคืนสู่สังคมอย่างปกติหลังพ้นโทษ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2505 ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง 142 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่ดูแล 14 คน บนพื้นที่ทั้งหมดของเรือนจำถูกแบ่งเป็นสวนป่าสะเดา, ป่าธรรมชาติ, บ่อน้ำเพื่อการเกษตร, แปลงสาธิต, กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการฝึกอาชีพต่างๆ มากมายให้กับผู้ต้องขังที่มาอยู่เรือนจำแห่งนี้
แน่นอนครับว่าผมหยิบยกเรื่องราวของ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" มาเขียนถึง เพราะมีโอกาสมา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ร่วมเดินทางมากับคณะผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์ที่นำคณะสื่อมวลชนมาสัญจรดูงาน และเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในเรือนจำชั่วคราวเขากลิ้งแห่งนี้
"พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า การนำสื่อมวลชนมาเยี่ยมชม "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" แห่งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบและเข้าใจในบทบาทภารกิจของกรมราชทัณฑ์
และนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีความรู้ ความเข้าใจ และเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั่วไป เพื่อจะได้ร่วมมือกันแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้กลับตนเป็นคนดีและออกไปสู่สังคมได้อย่างปกติสุขภายหลังพ้นโทษ ที่สำคัญเรือนจำแห่งนี้มีการฝึกอาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพัฒนาผู้ต้องขังให้รู้จักพึ่งพาตนเอง ตั้งแต่ด้านปัจจัย 4 ที่อยู่อาศัย การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย มีอาชีพที่สุจริตมั่นคง
พาณิชย์ในแปลงขนาดใหญ่ สามารถเก็บดอกขายให้กับบริษัทนำไปผลิตเป็นน้ำหอมทุกวัน และผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิดจะปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ มีการเพาะเห็ดนางฟ้าแบบโรงเรือน การปลูกต้นดอกพุทธซ้อนเพื่อขายต้นและดอกควบคู่กันไป การกลั่นสมุนไพรจากพืชเพื่อไล่แมลง การจัดทำน้ำส้มควันไม้ใช้แทนสารเคมี และการปลูกสวนป่า ฯลฯ
"พ.ต.อ.สุชาติ" บอกด้วยว่า โดยเฉพาะการปลูกสร้างบ้านดิน ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะเป็นที่ยอมรับ
จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนใน จ.เพชรบุรี และจังหวัดอื่นๆ ซึ่งได้นำบุคลากรเข้ามาศึกษาดูงานและฝึกทักษะวิชาชีพที่ศูนย์ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" เป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยในปี พ.ศ.2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จพระราชดำเนินเปิดห้องสมุดพร้อมปัญญา และทอดพระเนตรศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
"หากใครมาเยือนที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" จะเห็นร้านขายกาแฟตั้งอยู่ เพราะที่เรือนจำมีการฝึกอาชีพการชงกาแฟให้กับผู้ต้องขัง ที่ผ่านมามีผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้วสามารถได้งานทำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีชื่อเสียงใน จ.เพชรบุรี โดยรับผู้ต้องขังเหล่านี้ไปทำงาน เพราะมีความรู้ในการชงกาแฟที่มีรสชาติอร่อย ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปได้มีงานดีๆมีรายได้จุนเจือครอบครัว" พ.ต.อ.สุชาติ กล่าว
"ดร.สุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ" ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเพชรบุรี ในฐานะเจ้าบ้านและทำหน้าที่ไกด์นำชม กล่าวเสริมว่า ผู้ต้องขังที่มาอยู่ ณ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" นอกจากจะได้รับการปฏิบัติดูแลในลักษณะผ่อนคลายแล้ว ยังได้ประโยชน์จากทางราชการมากขึ้น เช่น การเยี่ยมเพื่อใช้ชีวิตคู่ เป็นสถานที่ฝึกอบรมเรื่องระเบียบวินัย ฝึกหัดอาชีพ ให้มีความรู้ ความชำนาญ และทักษะ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ภายหลังพ้นโทษ ถือเป็นสถานที่เตรียมความพร้อมก่อนได้รับการปลดปล่อยกลับสู่สังคม และยังเป็นสถานที่ระบายความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเพชรบุรีอีกด้วย
สำหรับการได้มา "ตะลอนตามอำเภอใจ" ที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ของผมในครั้งนี้ นอกจากจะได้เปิดหูเปิดตา ได้ความรู้ และไอเดียต่างๆ มากมายกลับบ้านแล้ว สิ่งที่พบเห็นภายในเรือนจำแห่งนี้ คือ บ้านชั้นเดียวที่ทำด้วยดินรูปร่างสวยงาม มีการแต่งแต้มสีสันทั้งภายในและภายนอกอย่างพิถีพิถัน รอบตัวบ้านตกแต่งจัดสวนได้อย่างลงตัว พื้นที่จัดสรรแบบเรียบง่าย มีทั้งอาคารสำนักงาน สถานที่ตรวจสารเสพติด และควบคุมผู้กระทำผิด บ้านพักอาศัย สถานที่เลี้ยงสัตว์ ด้านปศุสัตว์ต่างๆ อาทิ การเลี้ยงไก่พื้นเมือง, หมูป่า, โคพื้นเมือง, แพะเนื้อ และสุกร โดยผู้ต้องขังจะได้รับความรู้ตั้งแต่การเลี้ยงดูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปจนถึงขยายพันธุ์ การเลี้ยงดูลูกสุกรในลักษณะต่างๆ รวมถึงขายให้กับผู้สนใจทั่วไป
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ "การเลี้ยงหมูหลุม" เป็นการเลี้ยงตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ เพื่อพัฒนาเกษตรกรไทย โดยยึดหลักธรรมชาติ ซึ่งการเลี้ยงหมูหลุมนี้จะเน้นการใช้จุลินทรีย์ ทำให้สุกรมีความต้านทานโรค เนื้อแดงมาก มีไขมันน้อย ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวน ที่สำคัญช่วยลดต้นทุน มีกำไรสูง สุดท้ายพื้นคอกยังนำไปใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพและปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ต้องการอาหารที่ปลอดสารพิษ และการเลี้ยงหมูหลุม จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ผู้เลี้ยงมีรายได้ดีแบบไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี แถมยังสามารถนำเอามูลสุกรไปหมักในถังเพื่อให้เกิดก๊าชแล้วนำกลับมาใช้หุงต้มได้อีก
ช่วงสุดท้ายของ "ตะลอนตามอำเภอใจ" ขณะที่ผมเดินชมสิ่งต่างๆ อย่างเพลิดเพลินภายใน "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" แห่งนี้ ก็มองไปเห็นการผลิต "เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง"
ของผู้ต้องขังที่นี่ ถือได้ว่าเป็นเตาหุงต้มที่มีประสิทธิภาพน่าใช้มาก เพราะคุณภาพของเตาหุงต้มนี้มีการให้ความร้อนที่สูงสม่ำเสมอ และใช้เชื้อเพลิงจำนวนน้อยกว่าเตาหุงต้มจากท้องตลาดทั่วไป มีการออกแบบให้ประหยัดพลังงาน สามารถให้ความร้อนที่สูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบรูปทรงและตัวถังบรรจุเตา ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
และหากใครยังไม่มีโอกาสแวะเวียนไปที่ "เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง" ก็อาจแวะเวียนให้กำลังใจผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ด้วยการไปอุดหนุนสินค้าต่างๆ มากมายของเรือนจำแห่งนี้ ที่นำมาขาย และจัดแสดงร่วมกับเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ ภายในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 9-19 ธันวาคม 2556 เวลา 09.00 น.- 21.00 น. ณ สนามหน้าเรือนจำลาดยาว ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ...วันนี้ขอโบกมือลากันไปก่อนครับ...!!!
นวย เมืองธน
*****************************************


 
 
เป็นกิจกรรมที่ดีเยี่ยม
ตอบลบคนไทยไม่ควรทอดทิ้งกันโอกาสคือสิ่งมีค่าสำหรับคนที่ขาดอิสรภาพเสมอขอแค่เพียงดอกาสกับคืนสู่สังคม
ตอบลบ