วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นั่งรถเมล์กินลมชมบางลำพู

การนั่งรถเมล์หรือรถโดยสารประจำทาง ขอเน้นว่าต้องเป็นรถร้อนเปิดหน้าต่างรับลมและโอโซนจากภายนอกรถมันถึงจะได้อรรถรสและบรรยากาศในการนั่งรถชมกรุงเทพฯ ถ้ารถติดบ้างเราก็อย่าหงุดหงิดนะ ถือโอกาสแชะภาพถ่ายรูปกันบนรถเมล์นั่นละ 
            มันก็จะได้บรรยากาศอีกแบบนะ
         อย่างครั้งนี้ผมมีโอกาส “ตะลอนตามอำเภอใจ“ นั่งรถเมล์ชมวิวเพลินๆผ่านมาบางลำพู ย่านหนึ่งในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ได้ถ่ายภาพบรรยากาศขณะนั่งรถเมล์ผ่าน 
             จึงอยากบอกเล่าถึงบางลำพูหน่อย 
เพราะปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีโดยเฉพาะที่ถนนข้าวสาร มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนร้านกินดื่ม มีโรงแรม เกสต์เฮาส์ ที่พักชั่วคราว
             ไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย
ช่วงสุดท้ายของ “ตะลอนตามอำเภอใจ“  อดีตบางลำพู เคยเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ซึ่งภาพยนต์ไทยเรื่อง “2499 อันธพาลครองเมือง“ ก็มีฉากหนึ่งที่นักเลงยกพวกตีกันจนกลายเป็นศึก 13 ห้าง
และปัจจุบันบางลำพูก็เป็นแหล่งค้าขายเสื้อผ้า ชุดนักเรียน เครื่องนุ่งห่มต่างๆที่รู้จักกันดีอีกด้วย…!!
                                    “นายตะลอน“
           

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

สีสันวงเวียน 22 กรกฎาคม พันธกิจคริสตจักรไมตรีจิต

ปัจจุบันย่านบริเวณวงเวียน 22 กรกฎาคม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ไม่เพียงเป็นแหล่งขายยางรถยนต์ ทั้งใหม่และเก่าจำนวนหลายร้าน ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟผุดขึ้นมามากมาย ที่ดึงเอาจุดสถาปัตยกรรมตึกแถวโบราณ แต่งแต้มเติมสีให้ดูวินเทจ คลาสสิค รวมถึงสายอาร์ตได้อย่างน่าสนใจ ทำให้บรรยากาศย่านนี้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะซอยนานา ย่านถนนไมตรีจิตต์ ที่ผมมีโอกาสมา“ตะลอนตามอำเภอใจ“ผ่านมาหลายครั้งหลายครา
นอกจากนี้ ย่านถนนไมตรีจิตต์ ก็ยังเป็นที่ตั้งของคริสตจักรไมตรีจิต ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสมาร่วมกิจกรรมออกหน่วยบริการตัดผมฟรีให้ประชาชนที่คริสตจักรไมตรีจิตและยังได้ เยี่ยมชมบูธพันธกิจต่างๆของคริสตจักรแห่งนี้ 
           อาทิ  บ้านสะมาเรีย เป็นพันธกิจที่เกิดจากความ
รักและการเชื่อฟังพระเจ้าที่ให้การดูแลและช่วยเหลือแก่เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้ เด็กกำพร้าและหญิง
หม้ายอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการช่วยเหลือโดยเน้นให้การศึกษาที่ดี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แก่เด็กที่มีความทุกข์ร้อนในสภาพความที่ยากจน ไม่มีความหวัง มองไม่เห็นอนาคต  เป็นการสร้างคุณค่าชีวิตให้กับเด็กและผู้ปกครองโดยการรู้จักกับพระเจ้า สัมผัสพระคุณ ความรัก และการทรงนำจากพระองค์ เพื่อสามารถปรับตัวในสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผ่านการช่วยเหลือโดยเน้นให้การศึกษาที่ดีแก่เด็กที่มีความเดือดร้อน
  ช่วงสุดท้ายของ“ ตะลอนตามอำเภอใจ“ จากข้อมูลโลกออนไลน์ วงเวียน 22 กรกฎาคม สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงตัดสินพระทัยนำประเทศไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2460 โดยประกาศสงครามกับกลุ่มประเทศฝ่ายอักษะ ส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดสงคราม ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ และการทหาร รวมทั้งสามารถเรียกร้องแก้ไขและยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ของชาติมหาอำนาจที่เคยทำไว้กับประเทศไทยอีกด้วย…!!!
                                  “นายตะลอน“
..................................................................


วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สีสันตลาดเช้าริมบึง สบายใจช็อปของถูก

 าลครั้งหนึ่งที่ไม่นานเท่าไหร่ ที่บ่อยครั้ง ถึงบ่อยมาก..ที่ผมมักเดินย่ำต๊อก ขึ้นรถลงเรือท่องเที่ยวไปยัง
ตลาดต่างๆ ถึงขั้นพลิกผันกลายเป็นพ่อค้าขายของเล็กๆน้อยๆตามตลาดนัด ยึดเป็นอาชีพว่างั้นเถอะ เพราะมันเป็นอาชีพที่อิสระเป็นนายของตัวเอง ขายได้บ้างไม่ได้บ้างก็ถือเป็นสีสันสำหรับคนค้าขายครับ
คำว่า “ตลาด“ อาจมีความ หมายและจำแนกแตกต่างกันออกไป จากข้อมูลโลกออนไลน์ ระบุว่าตลาดนัดอาจจัดในสถานที่ที่แน่นอน หรือเปลี่ยนสถานที่ก็ได้ ส่วนความแตกต่างของตลาดนัดและตลาดสดก็คือ ตลาดสดเป็นตลาดที่มีสินค้าวางขายทุกวัน ซึ่งอาจเว้นบาง
วันตามกำหนด แต่ตลาดนัดมี
กำหนดซื้อขายเพียงไม่กี่วันต่อสัปดาห์ หากเปิดขายเป็นประจำทุกวันก็จะไม่เรียกว่าตลาดนัด นอกจากนี้ตลาดนัดยังอาจขายสินค้าที่หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องขายอาหารสดเพียงอย่างเดียว เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องครัว ของตกแต่งบ้าน หนังสือ
รวมถึงของเก่าของมือสองต่างๆด้วย ฯลฯ
             ตลาดเช้าริมบึง เมืองทอง1 หลักสี่ กรุงเทพฯ เป็นตลาดอีกแห่งหนึ่ง ที่ผมมีโอกาสมา “ตะลอนตามอำเภอใจ“ อยู่บ่อยครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินตลาด และคนค้าขาย ซึ่ง
ตลาดแห่งนี้ สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินค้ามือสอง และสินค้าใหม่ ตั้งแต่เสื้อผ้าต่างๆ ยันเครื่องมือช่าง รวมถึงของสะสมประเภทของเก่าต่างๆแนววินเทจ และอื่นๆมากมายบรรยายไม่ไหวจริงๆครับ
          ส่วนสีสันภายในตลาดแห่งนี้ คงจะหนีไม่พ้น
งานศิลปะเทคนิคต่างๆที่ถูกวางเรียงรายขายอยู่อย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นผลงานของ “หน่อง-พงศ์พิชาน พุ่มกระจ่าง“ ที่ยึดอาชีพศิลปิน สร้างงานศิลปะเลี้ยงชีพมานานหลายสิบปี
         “พี่หน่อง“ เล่าว่าหลังจากเรียนจบคณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาออกแบบประยุกต์ศิลป์ วค.สวนสุนันทา

ปัจุบันเป็นมรภ.สวนสุนันทา เมื่อปี 2535 ก็เข้าทำงานตามบริษัทอยู่พักหนึ่ง แต่ด้วยตัวเองรักชีวิตอิสระจึงหันมาสร้างงานศิลปะขายจนถึงทุกวันนี้ หากใครชอบงานศิลปะผ่านมาย่านนี้ก็สามารถแวะอุดหนุนได้ครับ
           ช่วงสุดท้ายของ “ตะลอนตามอำเภอใจ“ ส่วนใครอยากหล่อ ตัดผมในบรรยากาศตลาดนัดชิวๆเรียบง่าย ตัดผมด่วน ราคาบ้านๆ ประหยัดเงินในกระเป๋า นั่งชิวๆมองผู้คน ท้องฟ้า และบึงน้ำขนาดใหญ่ ก็แวะมาที่ตลาดเช้าริมบึงแห่งนี้ได้เช่นกัน “Talon Barber“ ยินดีต้อนรับคร๊าบผ๊ม….!!!
                               “นายตะลอน“

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วาดๆเขียนๆเพลินใจ นั่งมองสายน้ำเกาะเกร็ด

สำหรับเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นเกาะกลางน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งหนึ่งของจังหวัดนนทบุรีก็ว่าได้ ซึ่งผมเคยมา“ตะลอนตามอำเภอใจ“ หลายครั้งหลายคราแล้ว และเคยเขียนบอกเล่าเรื่องราวหลายครั้งแล้วเช่นกัน
เกาะเกร็ดนั้น เป็นแหล่งศิลปะวัฒนะธรรม ประเพณีพื้นบ้านมากมายที่ชาวบ้านคนไทยเชื้อสายมอญสืบทอดกันมาแต่โบราณและยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาซึ่งถือเป็นสินค้าคู่เกาะเกร็ดเลยก็ว่าได้ครับ


  วันนี้เป็นอีกวันที่มีโอกาสมาตะลอนฯสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง คือจริงๆตั้งใจจะมาเดินดูของกิน และซื้อไอศกรีมกะทิสดแบบตักเป็นลูกๆใส่
ขนมปังนุ่มๆโรยหน้าถั่วลิสง อ่อใส่ข้าวเหนียวมูลด้วย ก็จัดไปได้กินสมใจอร่อยชื่นใจดีนะ
          แถมยังได้มานั่งริมเขื่อนบริเวณวัดปรมัยยิกา
วาส ชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา นั่งวาดรูปขีดๆเขียนๆบ้านเรือนริมแม่น้ำตรงข้ามเกาะเกร็ด เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับสายน้ำเจ้าพระยา
           ช่วงสุดท้ายของ“ตะลอนตามอำเภอใจ“ พอแดดร่มลมตกก็ต้องบอกลาเกาะเกร็ดกลับบ้าน
แล้วสินะ ซึ่งการมาเกาะเกร็ดของผมครั้งนี้ไม่ได้เดินตะลอนเที่ยวเหมือนกับทุกครั้งที่เคนมา บอกเลยว่าขาเจ็บก็เลยใช้เวลากับการนั่งมองสายน้ำเจ้าพระยาเพลินๆเท่านั้นเอง
สุดท้ายก็ลงเอยมื้อเย็นด้วยข้าวกับน้ำพริกปลาทูที่บ้านอันแสนอร่อยจริงๆ....!!!
                                   “นายตะลอน“


วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เสน่ห์ศาลาแดง ถิ่นนี้มีตำนาน

ากเอ่ยถึง “ศาลาแดง“ ย่านสีลม กรุงเทพฯ เชื่อว่าหลายคนคงร้องอ๋อ เพราะถือเป็นย่านเศรษฐกิจ ย่านการค้า แหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและชาวต่างชาติรู้จักกันดี
และก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าในวันที่ผมมีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมชมดูการเวิร์กชอปของร้านตัดผมชายแห่งหนึ่งภายในพื้นที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็เลยมีโอกาสได้มา “ตะลอนตามอำเภอใจ“ ย่านศาลาแดงเพราะอยู่ไม่ไกลกันมากแค่เดินข้ามแยกก็ถึงกันแล้ว ในวันนั้นผู้คนเดินกันขวักไขว่มากมายเหลือเกิน   

ที่สำคัญ “ศาลาแดง“ ถิ่นนี้มีร้านอาหารเก่าแก่มากมาย เรื่องความอร่อยผมคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเห็นคนเต็มร้านไปหมด ทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ฯลฯ แถมบางร้านยังคง
รักษาโครงสร้างเก่าแก่โบราณของร้านให้คงอยู่จนถึงปัจจุบัน ดูแล้วมีเสน่ห์ทำให้พอเห็นวัฒนธรรมเมื่อสมัยก่อนว่าเค้าอยู่กันอย่างไร
         จากข้อมูลโลกออนไลน์ "ศาลาแดง" ในอดีตนั้นเป็นทุ่งนาที่เขียวขจี จึงทำให้รู้ว่าสมัยโบราณย่านนี้ชาวบ้านเค้าทำนากัน
และยังเป็นแหล่งปลูกข้าวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯอีกด้วย ต่อมาประมาณปีพ.ศ. 2436 ชาวเดนมาร์กได้มาสัมปทานสร้างรถไฟสายสมุทรปราการ หรือสายปากน้ำ ซึ่งแล่นผ่านบริเวณทุ่งนาแถบนี้
ช่วงสุดท้ายของ “ตะลอนตามอำเภอใจ“ แน่นอนว่าเมื่อมีการสร้างทางรถไฟ ก็ต้องสร้างสถานีรถไฟรวมถึงศาลาที่ให้ผู้โดยสารนั่งรอรถไฟด้วย ซึ่งศาลาหลังนี้ก็มีหลังคาเป็นสีแดงโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาย่านนี้ก็ถูกเรียกว่า "ทุ่งศาลาแดง" …!!!
                                       “นายตะลอน“

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562

ผัดไทยเด็ดจริง หั่นผมบางกอกน้อย




ช่วงหนึ่งของ “ตะลอนตามอำเภอใจ“ โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีโอกาสแวะเวียนผ่านเข้ามาย่านตลาดศาลาน้ำเย็น เลียบทางรถไฟ
บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อยู่บ่อยครั้ง เพราะตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเช้าที่ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมเดิมๆเหมือนตลาดสดพื้นบ้านอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยเฉพาะเรื่องราวของตลาดศาลาน้ำเย็นผมเคยบอกเล่าไปแล้วครั้งหนึ่ง

เพราะเป็นตลาดที่เป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวานอร่อยๆราคาถูกมากมายเหลือเกิน
แถมใกล้ๆกับตลาดศาลาน้ำเย็นตามร้านค้าเล็กๆริมถนนก็มีร้านอาหารที่อร่อยอยู่หลายร้านเช่นกัน อย่างร้านอาหารตามสั่ง “ป้าติ๊ก“ ที่อยู่ติดๆกับ
ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (วัดสุทธาวาส) บางกอกน้อย ซึ่งเช้าวันนั้นมีโอกาสลิ้มรสผัดไทย ที่ร้านแห่งนี้แล้วรู้สึกได้เลยว่ามันอร่อยจริงนะขอบอก
         ไหนๆก็อิ่มท้องแล้วก็ต้องแวะเวียนตะลอนฯที่แผนกตัดผมชาย (เสาร์-อาทิตย์) ของศูนย์ฝึกอาชีพบางกอกน้อยหน่อย เพราะสถานที่แห่งนี้นอกจากจะฝึกอาชีพให้ประชาชนแล้ว ยังบริการตัดผมฟรีให้ชาวบ้านด้วย
อาจารย์เฉลียว นุชกระโทก“ อาจารย์แผนกตัดผมชาย บอกว่า คนที่มาเรียนตัดผมชายนั้นต้องเป็นคนรักสวยรักงาม มีความอดทน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ต้องมาสัมผัสเรียนรู้ประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง ซึ่งคนที่มาเรียนตัดผมชาย ส่วนหนึ่งมีงานประจำอยู่แล้ว มาเรียนเพื่อหารายได้เสริมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และถือเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่เยอะ เพราะลงทุนครั้งเดียวก็สามารถสร้างงานสร้างเงินได้เลย
            ช่วงสุดท้ายของ “ตะลอนตามอำเภอใจ“ ในฐานะศิษย์เก่าของที่นี่ มาแล้วก็ต้องแจมตัดผมให้ผู้มาใช้บริการหน่อยไม่เช่นนั้นเหมือนมาไม่ถึงห้องเรียนแห่งนี้….!!!
                                     “ นายตะลอน“